รบกวนโลกให้น้อยลง 2 :
ภาระ กับ ภารกิจ
ตอนที่แล้วได้เกริ่นปูพื้นความเข้าใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เข้ามากระทบเรา ด้วยสองกลวิธีที่คนทั่วไปใช้ในการนำเสนอ
ตระหนก กับ ตระหนัก
ยุคที่สื่อครองเมือง ด้วยความรวดเร็วฉับไวจนบางครั้งไร้ข้อมูลความจริงหรือขาดชุดความรู้เพียงพอที่จะทำให้คนรับสื่อได้กลั่นกรองก่อนจะหลงเชื่อ ความตระหนกเลยเกิดขึ้นจนคนไม่ทราบข้อเท็จจริง และไม่มีเวลาหรือมีความมุ่งมั่นเพียงพอจะไปค้นหาความจริงหรือข้อมูลที่ถูกต้อง
ความตระหนัก จะทำให้เราเข้าใจและต่อไปก็จะไม่กระพือหรือหลงเชื่อแบบไร้ความรู้และข้อมูล
ถ้าเราปรับความคิดและเข้าใจในกลยุทธ์ทั้งสองแล้ว
วันนี้ผมจะขอนำเสนอวิธีพิชิตกลไกการเผลอทำลายโลกโดยไม่รู้ตัว
หลายครั้งที่เรามองว่า”การจะต้องรับผิดชอบต่อผลการบริโภคของเราทุกวันมันเป็นภาระมากๆ” ทำไมเราต้องมานั่งคอยคิดพิจารณาเลือกซื้อสินค้าตัวนั้น ไม่ซื้อตัวนี้ หรือต้องมาซื้อตัวนี้ ไม่ซื้อตัวนั้น คงไม่มีใครมานั่งพิจารณาหรือมาตรวจชนิดสินค้าว่าอันไหนที่จะดีหรือไม่ดี บางครั้งสินค้าตัวนั้นก็มีทั้งดีและไม่ดี เราจะตัดสินอย่างไร
และถ้ายิ่งการต้องมารับผิดชอบโดยที่เราไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ ไม่มีกระบวนการจัดการเราจะทำอย่างไร มันเป็นภาระสำหรับประชาชนหรือผู้บริโภค
พอเรามองว่าการต้องมารับผิดชอบผลของการบริโภคของเราเองมันเป็นภาระ สำหรับเรา…พอเป็นภาระ….เราก็จะรับผิดชอบผลจากการบริโภคเหล่านั้นแบบทำให้มันเสร็จๆ ให้มันพ้นความรับผิดชอบของเราไป
ภาระ มักจะตามมาแค่การทำให้มัน เสร็จๆ
แต่ผมอยากบอกว่าการทำแค่ให้มันเสร็จๆ มันเป็นการส่งต่อภาระของเราไปให้คนอื่น ซึ่งสุดท้ายปลายทางของภาระนั้นๆ ก็จะตกไปที่คนอื่น ไปที่พื้นที่สาธารณะหรือสิ่งแวดล้อมรวม ซึ่งมันก็คือโลกที่เราอยู่
วันนี้ผมอยากชวนเพื่อนๆ มาเปลี่ยน “ภาระ” ที่แค่ทำให้มันเสร็จๆ กลายมาเป็นการทำ “ภารกิจ” ทำให้มันสำเร็จ ก่อนส่งต่อภารกิจไปให้คนอื่น หรือส่งไปพื้นที่สาธารณะหรือสิ่งแวดล้อมรวม
เราแค่ทำภารกิจต่างๆ ที่จะรบกวนโลกให้น้อยลง
ตั้งใจทุกเช้าหลังตื่นนอน ก่อนลุกขึ้นจากที่นอนลองวางแผนการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเข้าใจบริบทของโลก เช่น
เราจะเดินทางไปไหน ไปอย่างไร การไปทำงานเราเลือกเส้นทางและวิธีเดินทางที่รบกวนโลกให้น้อยลงได้แค่ไหน
เราจะใข้ไฟฟ้าเราสามารถเลือกแหล่งที่มาของไฟฟ้าว่ามาจากพลังงานทางเลือกที่รบกวนโลกให้น้อยลงได้อย่างไร เราปิดสวิทต์ไฟฟ้า ในบ้าน ในที่ทำงานแล้วหรือยัง
เราจะบริโภคอะไร อาหารเช้าเราจะทานอะไร เราจะพกกระติกน้ำ ถุงผ้า ตะเกียบ ช้อน กล่องใส่อาหาร เครื่องมือส่วนตัวในการบริโภค เพื่อลดการใช้ภาชนะและอุปกรณ์ทานอาหารแบบครั้งเดียวทิ้งหรือใช้ครั้งเดียว
เราจะซื้อของเฉพาะสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่สร้างภาระทั้งก่อนและหลังบริโภค
และอีกหลากหลายกิจกรรมในแต่ละวันที่เพื่อนๆ ต้องเผชิญ ถ้าเราเปลี่ยนการส่งต่อภาระแบบทำให้เสร็จๆ ขอไปที เป็นการวางแผนทำภารกิจในแต่ละวันให้สำเร็จ
ถ้าทุกคนคิดและทำตามนี้ได้ ผมเชื่อว่าเราจะอยู่บนโลกใบนี้ไปได้อีกนานแสนนานและไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเลย
มาเปลี่ยน “ภาระ” เป็น “ภารกิจ” กันนะครับ
ป.ล. ถ้าเพื่อนๆ มีภารกิจดีๆ แนะนำเข้ามา ภารกิจนั้นเข้าตา เรามีของที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมอบให้ด้วยนะครับ
สินชัย เทียนศิริ (คนสามัญประจำโลก)